การเคลือบพื้นด้วย Epoxy เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับพื้นที่ต้องการความทนทานและความสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นพื้นโรงงาน, โรงพยาบาล, หรือพื้นที่เชิงพาณิชย์ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการเคลือบพื้นอีพ็อกซี่ ขึ้นอยู่กับการเตรียมพื้นผิวอย่างถูกต้อง ซึ่งหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือการลงบล็อคความชื้น บทความนี้จะอธิบายถึงความสำคัญของการลงบล็อคความชื้นก่อนทำพื้นอีพ็อกซี่ และเหตุผลที่ทำให้ขั้นตอนนี้มีความจำเป็น
1. ความสำคัญของการลงบล็อคความชื้น
1.1 ป้องกันการหลุดล่อนของพื้นอีพ็อกซี่
ความชื้นที่อยู่ใต้พื้นผิวสามารถซึมเข้าสู่ชั้นเคลือบ Epoxy และทำให้เกิดการหลุดล่อน เนื่องจากความชื้นจะทำให้การยึดเกาะระหว่าง Epoxy กับพื้นผิวไม่แน่นหนา การลงบล็อคความชื้นช่วยป้องกันไม่ให้ความชื้นจากพื้นดินหรือบริเวณรอบ ๆ ซึมเข้าสู่พื้นผิวที่เคลือบ Epoxy ทำให้ชั้นเคลือบมีความคงทนและยึดเกาะได้ดี
1.2 ป้องกันการเกิดฟองอากาศ
ความชื้นที่ซึมเข้ามาในชั้นเคลือบ Epoxy สามารถทำให้เกิดฟองอากาศใต้พื้นผิว ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้พื้นผิวดูไม่สวยงาม แต่ยังลดความทนทานของชั้นเคลือบ การลงบล็อคความชื้นช่วยลดปัญหาการเกิดฟองอากาศและทำให้พื้นอีพ็อกซี่ เรียบเนียนและมีความทนทาน
1.3 เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะ
การลงบล็อคความชื้นจะช่วยให้การยึดเกาะของ Epoxy กับพื้นผิวมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากการที่พื้นผิวแห้งสนิทจะช่วยให้สารเคลือบสามารถซึมลึกเข้าไปในรูพรุนของพื้นผิวได้ดีขึ้น ทำให้พื้นผิวที่เคลือบมีความทนทานและใช้งานได้นานขึ้น
2. ขั้นตอนการตรวจวัดความชื้น
2.1 การเตรียมพื้นผิว
ก่อนทำการตรวจวัดความชื้น ควรทำความสะอาดพื้นผิวให้ปราศจากฝุ่นและสิ่งสกปรก เพื่อให้เครื่องตรวจวัดความชื้นสามารถอ่านค่าได้อย่างแม่นยำ
2.2 การใช้เครื่องตรวจวัดความชื้น
นำเครื่องตรวจวัดความชื้นมาวางบนพื้นผิวที่ต้องการตรวจวัด กดปุ่มเพื่อเริ่มการวัด และอ่านค่าความชื้นที่เครื่องแสดงผล โดยเกณฑ์ความชื้นที่ยอมรับได้: พื้นผิวที่เหมาะสำหรับการเคลือบ Epoxy ควรมีค่าความชื้นไม่เกิน 4-5% หากค่าความชื้นสูงกว่านี้ ควรทำการบล็อคความชื้นก่อนการเคลือบ โดยควรตรวจวัดความชื้นในหลายจุดบนพื้นผิว เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งพื้นที่มีความชื้นอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้
3. วิธีการลงบล็อคความชื้น
บล็อคความชื้น (Moisture Block) มักจะลงก่อนขั้นตอนชั้นโป้ว (Putty) หรือชั้นป้องกัน (Barrier) โดยเป็นการเตรียมพื้นให้พร้อมสำหรับการลง Epoxy เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นที่ยังหลงเหลือในพื้นคอนกรีตส่งผลกระทบต่อการยึดเกาะของ Epoxy ในขั้นตอนต่อไป
3.1 ทำความสะอาดพื้นผิว
ก่อนลงบล็อคความชื้น ควรทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาดจากฝุ่น คราบน้ำมัน และสิ่งสกปรกอื่น ๆ เพื่อให้สารบล็อคความชื้นสามารถยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดี
3.2 เลือกน้ำยาบล็อคความชื้นที่เหมาะสม
เลือกใช้สารบล็อคความชื้นที่เหมาะสมกับประเภทของพื้นผิวและสภาพแวดล้อม เช่น สารบล็อคความชื้นสำหรับพื้นคอนกรีต หรือพื้นไม้
3.3 การทาสารบล็อคความชื้น
ทาสารบล็อคความชื้นให้ทั่วพื้นผิว โดยใช้แปรงหรือโรลเลอร์ ทาอย่างสม่ำเสมอและรอให้แห้งสนิทตามเวลาที่ผู้ผลิตกำหนด
3.4 ตรวจสอบและทาซ้ำ (ถ้าจำเป็น)
หากพื้นผิวมีความชื้นสูงมาก อาจต้องทาสารบล็อคความชื้นซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าพื้นผิวแห้งสนิทและพร้อมสำหรับการเคลือบพื้นอีพ็อกซี่
4. ผลเสียที่อาจเกิดขึ้นหากไม่ลงบล็อคความชื้น
4.1 การหลุดล่อนของชั้นเคลือบ Epoxy
ความชื้นที่อยู่ใต้พื้นผิวสามารถทำให้ชั้นเคลือบ Epoxy หลุดล่อนได้ เนื่องจากการยึดเกาะระหว่าง Epoxy กับพื้นผิวไม่แน่นหนา พื้นที่เคลือบ Epoxy จะไม่สามารถทนต่อการใช้งานหนักหรือการกระแทกได้ดี
4.2 การเกิดฟองอากาศใต้พื้นผิว
ความชื้นที่ซึมเข้ามาในชั้นเคลือบ Epoxy สามารถทำให้เกิดฟองอากาศใต้พื้นผิว ทำให้พื้นผิวดูไม่เรียบเนียนและไม่สวยงาม และยังลดความทนทานของชั้นเคลือบด้วย
4.3 การเกิดรอยแตกและรอยร้าว
ความชื้นสามารถทำให้พื้นผิวที่เคลือบ Epoxy เกิดรอยแตกและรอยร้าวเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากการขยายและหดตัวของความชื้นที่ซึมเข้าไปในพื้นผิว
4.4 การเกิดเชื้อราและแบคทีเรีย
ความชื้นที่สะสมอยู่ใต้ชั้นเคลือบ Epoxy สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
สรุป
การลงบล็อคความชื้นเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในการเตรียมพื้นผิวก่อนการเคลือบพื้น Epoxy เพราะช่วยป้องกันการหลุดล่อน การเกิดฟองอากาศ และเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะของ Epoxy ทำให้พื้นผิวมีความทนทานและสวยงามยิ่งขึ้น